แนนซี เพโลซี ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แล้ว หลังจากพรรครีพับลิกันคว้าเสียงข้างมากในสภาล่างไปครองในการเลือกตั้งกลางเทอม
ทันโลกข่าวต่างประเทศ สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า แนนซี เพโลซี วัย 82 ปี ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่เธอเป็นมานานเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว หลังจากพรรครีพับลิกันหวนกลับมาครอบครองเสียงข้างมากในสภาล่างได้สำเร็จในการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อสัปดาห์ก่อน
นางเพโลซีเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสภาคองเกรส และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยหลังจากนี้เธอจะยังคงเป็น ส.ส.ตัวแทนจากเขตในรัฐแคลิฟอร์เนียต่อไป และยืนยันว่าจะไม่ลงชิงตำแหน่งผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสครั้งต่อไป เพราะถึงเวลาของคนรุ่นใหม่แล้ว
ส่วนผู้ที่จะมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนต่อไปคาดว่าจะเป็นนาย เควิน แมคคาร์ธี ส.ส.รีพับลิกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ตาม เขาจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ในการประชุมเต็มคณะเสียก่อน โดยการเปิดสมัยประชุมสภาคองเกรสครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 3 ม.ค. 2566
นายฮันต์เปิดเผยมาตรการต่างๆ รวมถึงการแช่แข็งอัตราการเก็บภาษีเงินได้ขึ้นต่ำสุดไว้ที่ 12,570 ปอนด์ ไปจนถึงเดือนเมษายน 2571 หมายความว่าผู้ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่านี้จะถูกเก็บภาษี ขณะที่ลดเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำสำหรับผู้ที่จะเริ่มถูกเก็บภาษีระดับสูงสุด หรือ 45% ลงจาก 150,000 ปอนด์ต่อปี มาอยู่ที่ 125,140 ปอนด์ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 สวนทางกับแผนงบประมาณเจ้าปัญหาที่ทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี ลิส ทรัสส์ ต้องลาออก